ขอนแก่น – หามชาวบ้าน 27 ราย  เข้าโรงพยาบาล คาดเกิดจากสารพิษปนเปื้อนในระบบประปาหมู่บ้าน

ชาวบ้านป่วยท้องร่วงระบาด 27 ราย  โดย 2 รายอาการสาหัส คาดเกิดจากสารพิษปนเปื้อนในระบบประปาหมู่บ้าน แพทย์เก็บตัวอย่างสุ่มตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด สั่งแก้ไขระบบประปาหมู่บ้านทั้งหมด พร้อมตรวจคัดกรองชาวบ้านที่เหลือหากพบผิดปกติต้องรีบนำตัวเข้ารักษา

           25 พ.ย. 66 นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายกรุง นามสง่า นายอำเภอแวงใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่บ้านโสกไผ่ หมู่ที่ 6 ต.ใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านและโรงพยาบาลแวงใหญ่ ว่ามีชาวบ้านป่วยด้วยโรคท้องร่วงระบาดเป็นหมู่คณะส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว จำนวน 27 ราย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแวงใหญ่

                 ข้อมูลจากโรงพยาบาลแวงใหญ่ ระบุว่า ตั้งแต่วันที 19 ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 มีชาวบ้านบ้านโสกไผ่ เข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยลักษณะเดียวกันคือโรคท้องร่วง ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากอาหารเป็นพิษ และการแพร่ระบาดของแมลงวันเป็นพาหะ แต่เมื่อตรวจรักษาอย่างละเอียดแล้วกับไม่ตรงกับโรคที่กล่าวมาข้างต้น จากการตรวจสอบของทีมแพทย์ รพ.แวงใหญ่ ร่วมกับทีม รพ.สต.หนองแดง และผู้ใหญ่บ้าน คาดว่าน่าจะเกิดจากระบบประปาหมู่บ้านปนเปื้อนมูลปุ๋ยขี้ไก่ ที่เกษตรกรนำมาใส่ในไร่มันสำปะหลังและไร่อ้อย ก่อนที่จะชะล้างไหลลงบ่อน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ประกอบกับน้ำประปาหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ได้เติมคลอรีนฆ่าเชื้อมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว ขณะนี้แพทย์ได้ทำการรักษาและวินิจฉัยโรค ได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น จำนวน 2 ราย อาการสาหัส พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแวงใหญ่ จำนวน 3 ราย และแพทย์ให้ไปพักรักษาตัวที่บ้าน จำนวน 22 ราย ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างผู้ป่วยไปตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดแล้ว คาดจะทราบผลภายใน 7 วัน

 การแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น โรงพยาบาลแวงใหญ่ได้นำคลอรีนมาเติมในระบบประปาหมู่บ้านเพื่อฆ่าเชื้อโรค และไล่ระบบประปาหมู่บ้านเดิมออกให้หมดเพื่อป้องกันพิษตกค้าง พร้อมประสานการประปาส่วนภูมิภาคนำน้ำประปาสะอาดมาเติมเข้าในระบบประปาหมู่บ้านเป็นเวลา3 วันต่อเนื่อง ทำความเข้าเรื่องการเติมคลอรีนในระบบประปาหมู่บ้านอย่างถูกต้องให้กับคณะกรรมการหมู่บ้าน และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชาวบ้านก่อนนำน้ำประปามาบริโภคต้องต้มให้สุกสะอาดทุกครั้ง พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกตรวจคัดกรองชาวบ้านที่เหลือหากพบมีอาการผิดปกติต้องนำตัวเข้ารักษาทันที.